‘บาดแผลทางกายรักษาไม่นานก็หาย...แต่บาดแผลทางใจรักษานานแค่ไหนก็ยากยิ่ง’

เมื่อครั้งที่นางฟ้าอยู่บนสวรรค์....
ท่านเคยรู้จักกับนางฟ้าองค์หนึ่ง ผู้มีรูปโฉมอัปลักษณ์แตกต่างไปจากองค์อื่น ๆ เมื่อครั้งแรกที่นางฟ้าองค์นี้อุบัติขึ้นบนสวรรค์ เทพเทวดานางฟ้าทุกท่านต่างพากันรังเกียจ และพากันหวาดกลัวนางฟ้าองค์นี้ยิ่งนัก
นางฟ้าอัปลักษณ์องค์นี้มีเรือนกายสีดำ ผิวพรรณทราม หน้าตาคล้ายกับยักษ์ หากแต่รัศมีเรือนกายของนางฟ้าองค์ดังกล่าว สว่างไสวเสียจนทุกองค์ต่างพากันประหลาดใจยิ่ง...
จนกระทั่งวันหนึ่ง...

นางฟ้าอีกองค์รวบรวมความกล้า เข้าไปถามนางว่า

‘ท่านนางฟ้า เหตุใดกันเล่าท่านถึงได้มีโฉมที่แตกต่างจากนางฟ้าองค์อื่น ๆ
เพราะเหตุใดกัน...ท่านถึงได้มีรัศมีกายสว่างไสวเยี่ยงนี้’

นางฟ้าอัปลักษณ์จึงตอบกลับไปว่า

‘เนื่องจากตอนที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่....มีรูปโฉมงดงาม เป็นหญิงสาวที่สวยงามยิ่งนัก แต่ทว่า...ความงามของข้าพเจ้า ได้นำมาซึ่งความทุกข์ระทม’
นางฟ้าอัปลักษณ์ ได้เล่าถึงความเป็นมาของตนว่า
ครั้งหนึ่ง...นางมีชายคนรัก หากแต่ชายคนรักของนางเป็นชายที่มีฐานะยากจน ทำให้บิดาของนางไม่ยอมรับเป็นเขย

นางเสียอกเสียใจอยู่นาน จนกระทั่งวันหนึ่ง...ชายใจทรามที่หลงใหลในรูปโฉมของนาง

ได้กระทำการอนาจารผิดจารีตประเพณี ทำให้นางถูกดูถูกเหยียดหยามจากผู้คนทั้งหลายที่ล่วงรู้เรื่องดังกล่าว ผู้เป็นบิดาทนรับความอับอายไม่ไหว จึงตัดสินใจยกนางให้เป็นภรรยาแก่ชายใจทรามผู้นั้นไป...

แต่ด้วยความที่เป็นหญิงที่มีรูปโฉมงาม ต้องตาต้องใจบุรุษอีกมากมายหลายคน ทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงประหัตประหารฆ่ากันตาย จนท้ายที่สุด...นางต้องกลายเป็นหญิงม่าย ถูกผู้คนประณามเหยียดหยาม
ด้วยความทุกข์ระทมนางจึงตัดสินใจออกบวช ละทางโลกหันหน้าเข้าหาทางธรรม แต่เนื่องจากความที่เป็นคนรูปโฉมงดงาม ถึงแม้นออกบวชแล้ว ก็ยังเกิดอุปสรรคต่อการบวช

เพราะอะไรน่ะหรือ...

ก็เพราะรูปโฉมที่งดงาม ก่อให้เกิดกิเลสทางใจแก่ผู้ที่มองเห็นนั่นเอง
หญิงสาวโฉมงามผู้อาภัพทนทุกข์ระทมอยู่นาน กระทั่งถึงยามที่นางจวนจะสิ้นลม จึงตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้ว่า

‘เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์ จะได้ไม่มีผู้มารักมาหลงเหมือนเช่นในชาตินี้’

...ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่นางทำเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับแรงอธิษฐานก่อนสิ้นลมหายใจ...ทำให้นางเกิดเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์วิมาน รัศมีกายเรืองรองสว่างไสวด้วยอานิสงส์คุณความดี
แต่ด้วย ‘แรงอธิษฐาน’ จึงทำให้นางมีใบหน้าอัปลักษณ์
นางฟ้าองค์นี้ได้เลือกแล้ว ว่าความอัปลักษณ์ช่วยให้นางไม่ต้องทุกข์ระทมเหมือนดังเช่นที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อยความอัปลักษณ์...ก็ช่วยให้ทุกข์น้อยกว่าความงาม

เป็นที่น่าเสียดายยิ่ง...เพราะความระทมทุกข์ภายในใจ ทำให้บัดนี้ นางยึดติดอยู่ในความทุกข์จนไม่อาจหลุดพ้นได้

ผู้ที่เล่าเรื่องนี้ คือนางฟ้าที่เคยกล่าวถึงในตอนต้น
ที่บังเกิดความรู้สึกเวทนาสงสารแทนนางฟ้าอัปลักษณ์ ผู้เก็บตัวอยู่ในวิมานไม่ยอมออกมานอกวิมานของตน จึงขออนุญาตนำเรื่องราวของนางฟ้าผู้นี้ มาบอกต่อแก่มนุษย์ทั้งหลาย ที่ยังหลงยึดติดอยู่กับรูปโฉมทั้งของตนเองและผู้อื่น โดยลืมนึกถึงความไม่เที่ยงของสังขาร ปล่อยให้ความหลงครอบงำสร้างความทุกข์เวทนาให้แก่ผู้อื่น

ด้วยหวังว่า...อานิสงส์ที่ได้จากการเผยแพร่เรื่องดังกล่าว
จะช่วยให้นางฟ้าอัปลักษณ์ คลายความทุกข์ได้บ้าง...

ที่มา..หนังสือเรื่องเล่าจากสวรรค์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น