อย่าปล่อยให้ความผิดหวังท้อแท้...

มาคอยกัดกร่อนทำลายความสุขในชีวิต...

หาหนทางเรียกกำลังใจกลับมาอีกครั้ง...

ถ้ากำลังมีความรู้สึกท้อแท้เบื่อหน่ายชีวิต

หรือหมดกำลังใจสาเหตุมาจากความล้มเหลว

ถูกตำหนิติเตียน...หรือเกิดปัญหาต่าง ๆ...

พยายามปลอบใจตนเอง ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา...

หากสามารถทำได้ก็สามารถเอาชนะใจตนเองได้ระดับหนึ่ง

แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย...

ก็ทำให้สามารถเรียกกำลังใจกลับมาได้อีกครั้ง...

จากนั้นมองย้อนไปที่ความผิดพลาดหรือความล้มเหลวที่เกิดขึ้น...

วิเคราะห์ว่าเกิดจากสาเหตุอันใด...

พร้อมกับระมัดระวังหรือแก้ไขมิให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาอีก...

ผู้ที่เคยล้มเหลวแล้วลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง...

จะเป็นผู้ที่มีความรอบคอบขึ้น...แข็งแกร่งขึ้น...

และมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากขึ้น...

เพราะครั้งหนึ่งเคยเอาชนะมรสุมร้ายในชีวิตมาแล้ว...

ความผิดพลาดในอดีตเป็นครูที่ดีที่จะสอนให้ระมัดระวัง...

และมองโลกได้อย่างเข้าใจยิ่งขึ้น...

ในการแพ้นั้น...บางคนแพ้เพราะฝีมือไม่ถึง...

บางคนแพ้เพราะประมาท...

แต่มีหลายคนที่แพ้...เพราะใจของตนเอง...


ขอบคุณที่มา:ธรรมะกับชีวิต/สีสรรสาระ

พฤติกรรมของคนดี (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


ลักษณะของบัณฑิต
๑ พูดแต่ในสิ่งที่ดี
๒ คิดแต่ในสิ่งที่ดี
๓ ทำแต่สิ่งที่ดีเสมอไป


พฤติกรรมของบัณฑิต

๑. ชอบทำแต่สิ่งที่ดี มีประโยชน์
๒. ชอบชักชวนคนอื่นในทางดี
๓. ชอบเสนอแนะสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับคนอื่น ๆ
๔. มีความรับผิดชอบในหน้าที่อย่างดีที่สุด
๕. มีศีลธรรมประจำใจ
๖. น้อมรับคำตักเตือน ไม่ดื้อ ไม่โกรธ เมื่อมีคนมาสอน
๗. อ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่มีความลำพอง ถือตัวถือตน เย่อหยิ่ง
๘. ไม่ปกปิดความผิดของตัวเอง
๙. บอกกล่าวความดีของคนอื่นให้คนอื่น ๆ ได้รู้กัน
แหล่งที่มาจาก : พลังจิตดอทคอม 



คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความโลภ
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการหาเงิน
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความแค้น
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความริษยา
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความหลังอันหดหู่
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความรัก
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับกามารมณ์
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการทำธุรกิจ
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการบ้าอำนาจ
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับเกียรติยศ
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับอุดมการณ์
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับสุรายาเสพติด
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับอบายมุข
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร
มีคนไม่กี่คน !
ที่ตระหนักรู้ว่า แท้ที่จริงนั้นเรามีเวลาอยู่ในโลกเพียงน้อยนิด, เราเกิดมาทำไม, และเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาอันแสนสั้นนั้น ?
โดย........ว.วชิรเมธี
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑

ขอบคุณป้าแก้ว(ทำดีดอทเน็ต)


ยึดหลักธรรมะ ช่วยทำงานอย่างมี "ความสุข"

ใครว่าธรรมะเป็นเรื่องของพระอย่างเดียว ผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่ เด็กไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ธรรมะสามารถเกี่ยวข้องได้ทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในวัยทำงานที่มักมีเรื่องให้ปวดหัวทั้งเรื่องงาน เรื่องเจ้านาย ส่งผลให้สุขภาพจิตเสื่อมโทรม การทำงานไม่มีประสิทธิภาพได้ สถาบันดี เอ็มจี อคาเดมี จึงจัดเสวนาเรื่อง "ธรรมะกับการบริหารงานสมัยใหม่" ที่อาคารอัมรินทร์พลาซ่า
งานนี้มีหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยทำงานมาร่วมฟังเสวนาคับคั่ง เพราะงานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นวิทยากร
ดร.สุเมธบอกว่า หลายคนมองว่าธรรมะเป็นเรื่องเก่า ไม่เหมาะกับคนสมัยใหม่ ซึ่งในความจริงแล้วไม่ว่าจะถูก ผิด ดี เลว เป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้น ธรรมะคือธรรมชาติอย่าไปเบื่อหน่าย
"มนุษย์ถูกกำหนดเป็นเครื่องมือสร้างความร่ำรวย กำไรมากกว่าทำงานแบบพี่น้อง ครอบครัว ใครเหยียบใครได้เหยียบเพื่อไต่เต้าให้ได้ดี เห็นตัวเลขการลงทุนมากกว่ามิตรภาพ โลกถูกครอบงำด้วยระบบทุนนิยม บริโภคนิยม มีกิเลสตัญหา ดังนั้นมนุษย์ควรใส่ใจมนุษย์ด้วยกัน อย่าเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ และไม่ทำลายผู้อื่น"
เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บอกอีกว่า การนำธรรมะเข้ามาช่วยในการบริหารงานจะช่วยในมนุษย์มีความสุขได้ อย่างการยึดหลักทศพิธราชธรรมเป็นคุณธรรมหลักของพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน คนทำงานสามารถนำไปปฏิบัติได้ ไม่ว่าจะเป็นการสละสิ่งเล็กๆเพื่อสิ่งที่ใหญ่กว่า อย่าคิดแต่ผลกำไร ควรดูแลลูกน้องด้วย รวมทั้งการซื่อสัตย์ สุจริต ไม่โกง เอาชนะความเกียจคร้านให้ได้ และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
"นอกจากนี้การรู้จักประมาณตน ก่อนทำอะไรคิดเสียก่อนลงมือทำ ดูความสามารถของตัวเอง เมื่อล้มจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ และอย่าดูแค่ธุรกิจ ใส่ใจลูกน้อง เพื่อนร่วมงานด้วยเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน ที่สำคัญหากยึดทางสายกลางจะช่วยให้การปฏิบัติงานดีขึ้นอีกด้วย และอย่าลืมความพอเพียง ถ้าอยากซื้อของแพงก็สามารถทำได้ แต่อย่าให้เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น ต้องมีเหลือไว้กินไว้ใช้ จะทำให้รวยและยั่งยืนได้"
ดร.สุเมธยังบอกอีกว่า ธรรมะไม่ต้องสอนให้ซึ้งถึงหลักธรรมแค่รู้จัก "พอ" และ "ดี" ถ้าคิดได้จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จและยั่งยืน การบริหารงานนอกจากเก่งต้องเป็นคนดีด้วย และรู้จักให้โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนกลับมา การทำงานจะมีความสุข หากทุกคนรู้จักนำธรรมะมาปรับใช้

ธรรมะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ หากรู้จักนำมาปรับใช้กับชีวิตให้ถูกกับตัวเอง!!